เอเจนซี่ศัลยกรรมเกาหลี
หลายๆครั้งการเดินทางไปที่ต่างแดน เราเองต้องอาศัยความชำนาญของไกด์หรือเอเจนซี่ที่พาเราไป วงการเอเจนซี่มีหลายด้านมาก ทั้งการศึกษา การค้าขายต่างแดน รวมถึงการทำศัลยกรรมเอง การเดินทางผ่าน เอเจนซี่ศัลยกรรมเกาหลี นอกจากคนไข้จะได้รับข้อมูลที่รู้ลึกรู้จริงแล้วยังได้รับการดูแลตั้งแต่ก่อนผ่าตัดระหว่างการผ่าตัด หลังการผ่าตัดทั้งในโรงพยาบาลและนอกโรงพยาบาลอีกด้วย เรามาดูกันว่าเอเจนซี่ศัลยกรรมเกาหลีที่ดีต้องบอกอะไรคุณบ้าง
9 เรื่องที่คุณต้องรู้จากเอเจนซี่ศัลยกรรมเกาหลี
1. เปิดเผยข้อมูลโรงพยาบาลที่เหมาะกับคนไข้
แน่นอนว่าโรงพยาบาลศัลยกรรมมีเยอะมาก การบอกข้อมูลเปรียบเทียบแต่ละโรงพยาบาลให้คนไข้ทราบจึงเป็นสิ่งจำเป็น และแน่นอนว่าแต่ละโรงพยาบาลหรือคลินิกจะมีจุดเด่นหรือจุดแข็งในแต่ละศัลยกรรม ในฐานะคนไข้เรามีสิทธิ์เลือกหมอที่ดีที่สุด เอเจนซี่ที่ดีจะไม่ยึดติดโรงพยาบาลใดโรงพยาบาลหนึ่ง แม้ว่าโรงพยาบาลนั้นๆจะครบวงจร แต่ต้องคำนึงถึงความถนัดของศัลยแพทย์ด้วย
โดยเพื่อนๆ สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ โรงพยาบาลและคลินิกศัลยกรรม ว่าแต่ละที่โดดเด่นและแตกต่างกันอย่างไร
2. พาทำศัลยกรรมกับศัลยแพทย์เจ้าของโรงพยาบาลเท่านั้น
โรงพยาบาลขนาดใหญ่จะมีศัลยแพทย์จำนวนมาก ซึ่งการทำศัลยกรรมโดยเฉพาะตา จมูก หน้าอก โครงหน้า ไม่ใช่แค่ทำศัลยกรรมแล้วจบๆไปเท่านั้น การดูแลหลังการผ่าตัดจะดูแลกันนานหลายเดือน เป็นปีเลยเพื่อให้แน่ใจว่าผลลัพธ์หลังผ่าตัดทุกอย่างดีเรียบร้อย ไม่จำเป็นต้องแก้ไข การทำศัลยกรรมกับหมอเจ้าของจะทำให้ติดตามผลได้อย่างมีประสิทธิภาพเพราะคุณหมอเจ้าของจะมีความรับผิดชอบมากกว่ารวมถึงคุณหมอไม่มีทางย้ายไปคลินิกอื่นๆแน่นอน
3. เปิดบริษัทมีใบอนุญาตการเป็นเอเจนซี่ในต่างประเทศ
อันนี้สำคัญมาก แม้ยังไม่มีกฎหมายกำหนดชัดเจน แต่การไปทำศัลยกรรมกับเอเจนซี่ที่มีใบอนุญาตก็เป็นการการันตีได้อย่างหนึ่งว่าหากมีความเสียหายเกิดขึ้นกับคนไข้ คนไข้จะสามารถเรียกร้องกับเอเจนซี่หรือโรงพยาบาลได้
4. เปิดเผยข้อมูลและรายละเอียดการทำศัลยกรรมแก่คนไข้
หลายๆครั้งที่คนไข้เคยได้รับการศัลยกรรมมาก่อน แต่จำไม่ได้ว่าตัวเองเคยทำศัลยกรรมอะไรไปบ้าง ไม่มีแม้แต่หนังสือรับรองการทำศัลยกรรมที่มีการระบุชัดเจนเกี่ยวกับประเภทศัลยกรรม เอเจนซี่ที่ดีจะสรุปเป็นลายลักษณ์อักษรให้คนไข้เสมอหลังการปรึกษาและคนไข้จะได้รับหนังสือรับรองการทำศัลยกรรมเมื่อผ่าตัดเสร็จ รวมถึงแจ้งอาการที่อาจเกิดขึ้นหลังการผ่าตัดให้คนไข้ได้ทราบก่อนการตัดสินใจอีกด้วย
5. ข่าวการสลับแพทย์ระหว่างผ่าตัด
เป็นข่าวลือหรือข่าวจริงที่หนาหูมากในเกาหลี ดังนั้น ญาติคนไข้สามารถขอโรงพยาบาลดูกล้องวงจรปิดระหว่างผ่าตัดได้แต่ไม่สามารถถ่ายวีดีโอได้ รวมถึงคนไข้เองก็สามารถขอดูเทปกล้องวงจรปิดย้อนหลังได้เช่นเดียวกัน(ควรขอดูในระยะเวลาไม่เกิน 2 วันหลังการผ่าตัด) เพราะหากนานกว่านั้นเทปดังกล่าวจะต้องใช้เวลาในการย้อนกลับไป. การดูกล้องวงจรปิดเป็นการสร้างความแน่ใจแก่ญาติและคนไข้ว่าได้รับการศัลยกรรมกับศัลยแพทย์ท่านเดียวกันกับที่ให้คำปรึกษาแก่คนไข้
6. บริการที่คุณควรได้รับเมื่อไปทำศัลยกรรมกับเอเจนซี่ ทั้งบริการรถรับส่งสนามบิน
บริการทีมล่ามมืออาชีพ รวมถึงการกำหนดตารางการเดินทาง รวมถึงแจ้งเตือนตารางนัดต่างๆ เรียกได้ว่า คนไข้ไม่จำเป็นต้องจำอะไรเลย เพราะเอเจนซี่จะคอยเตือนท่านตลอดเวลาการอยู่เกาหลี รวมถึงการเช็คอาการต่างๆหลังผ่าตัด และนัดหมายการติดตามอาการกับคุณหมออยู่เสมอ
7. อาหารการกินระหว่างการพักฟื้นที่เกาหลี
ทางเอเจนซี่จะคอยแพลนและพาคนไข้ไปเตรียมตัวตุนอาหารตั้งแต่ก่อนวันผ่าตัด รวมถึงในบางครั้งอาจให้เตรียมอาหารทดแทนมาจากเมืองไทยเพื่อความสะดวกต่อคนไข้ตลอดระยะเวลาการพักฟื้น
8. ช่วงระยะเวลาพักฟื้นหลังการผ่าตัด
การท่องเที่ยว การได้ออกไปในที่ต่างๆหลังการผ่าตัดจะทำให้คนไข้รู้สึกผ่อนคลาย รวมถึงการเดินช่วยให้เลือดไหลเวียนสะดวกและทำให้อาการบวมหลังการผ่าตัดลดลงอย่างรวดเร็วด้วย
9. บริการจองที่พักใกล้เคียง
รวมถึงตั๋วเครื่องบินในราคาทุน เป็นการอำนวยความสะดวกคนไข้ตั้งแต่ขั้นตอนก่อนการเดินทาง

สรุปคุณสมบัติที่ดีของเอเจนซี่ศัลยกรรมเกาหลี
การทำศัลยกรรมเกาหลีเป็นการเดินทางผ่าตัดข้ามประเทศ แน่นอนว่าคนไข้มีเวลาจำกัดในการพักฟื้น หากมาเมืองไทยแล้วเกิดปัญหา การปรึกษา แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าและคำแนะนำต่างๆต้องได้รับจากเอเจนซี่อย่างดี เพื่อความอุ่นใจ รวมถึงการปฎิบัติตามคำแนะนำของศัลยแพทย์และเอเจนซี่ จะทำให้ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อหรืออักเสบหลังการผ่าตัดได้ ในบางครั้งคนไข้มีเวลาไม่มากพอในการพักฟื้นหลังการผ่าตัด
ในฐานะเอเจนซี่เล็งเห็นความสำคัญและคำนึงพื้นฐานความปลอดภัยหลังการผ่าตัดไม่แพ้ทักษะศัลยแพทย์เช่นกัน บางครั้งจำเป็นต้องปฎิเสธเคสคนไข้ที่พร้อมทำ พร้อมเรื่องเงินและการเดินทาง แต่ไม่พร้อมในเรื่องของระยะเวลาพักฟื้นในเกาหลี อยากทำโครงหน้า หรือหน้าอก แต่อยู่เกาหลีได้แค่ 3-5 วัน เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
ดังนั้น ความปลอดภัยของคนไข้ต้องมาก่อนอันดับหนึ่ง เพราะหากคนไข้ได้ทำจริงๆ แต่อยู่เกาหลีแค่ 3-5 วัน ไหมทั้งหมดยังไม่ตัด แผลยังไม่เชื่อมกันสนิท เชื้อโรคต่างๆมีโอกาสเข้าสู่แผลได้ อาจเกิดการอักเสบ หรือติดเชื้อหลังการศัลยกรรม
คำถามคือ หากมาไทยแล้วเกิดปัญหา ใครจะรับผิดชอบ เพราะไม่มีหมอท่านไหนอยากรับเคสต่อในช่วงที่คนไข้แผลยังไม่หายดีหรืออยู่ในระยะเวลาการรักษากับศัลยแพทย์ท่านอื่นอยู่ ทางเดียวคือการบินกลับมารับการรักษาดูแลให้เรียบร้อยที่เกาหลี ไม่คุ้มเลยกับความเสี่ยงและเสียเวลาในการทำศัลยกรรมแต่ไม่มีเวลาพักฟื้น