ฉีดสารเติมเต็ม หรือที่มักเรียกกันว่า “ฟิลเลอร์” อาจเป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด จึงทำให้ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากเบตัวน้อยและใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นไม่นาน โดยใช้เวลาทำประมาณ 30 นาที ก็สามารถกลับไปทำงาน หรือออกไปเดินห้างชอปปิ้งต่อได้ โดยไม่ต้องนอนพักฟื้น ดังนั้นสำหรับใครที่ต้องการสวยแบบเร่งด่วยการ เสริมจมูกด้วยฟิลเลอร์ จึงได้รับความนิยมมาก
ฟิลเลอร์ (Filler) แบ่งออกเป็นหลายชนิด (ใช้ให้เหมาะสมเฉพาะจุด) หลายชนิดผ่านการรับรองจาก อย.สหรัฐฯ ว่าไม่ต้องทำ Skin Test เนื่องจากโอกาส ‘แพ้’ น้อยมาก การฉีดเสริมจมูกด้วยวิธีนี้ จะอยู่ได้ประมาณ 8-12 เดือน โดยจะสลายไปตามธรรมชาติ อาจเกิดรอยช้ำบริเวณที่ฉีด ประมาณ 3-5 วัน ก็จะหายไป บางที่อาจมีการโฆษณาว่าอยู่ได้นานมาก แต่ยังไม่รับรองความปลอดภัย เนื่องจากมีการผสมสารพอลิเมอร์ ซึ่งทำให้คงตัวอยู่นาน แต่ผลเสียคืออาจเกิดปฏิกิริยากับผิวหนังได้
แต่ถึงแม้ว่าการเสริมจมูกด้วยการฉีด Filler อาจจะดูง่ายดายและไม่ยุ่งยากเหมือนการ เสริมจมูกด้วยซิลิโคน แต่ทราบมั้ยคะว่าบางครั้งการฉีดฟิลเลอร์ก็สามารถเกิดปัญหาได้ ถ้าได้รับการฉีดในปริมาณที่ไม่เหมาะสม หรือ ไม่ได้ดูความเหมาะสมว่าคนไข้เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์มั้ย หรือหากมีการฉีดในปริมาณที่เยอะเกินไป ก็อาจทำให้เกิดผลเสียได้เช่นกัน และสามารถสร้างความเสียหายได้มากกว่าการ เสริมจมูกโดยใช้ซิลิโคน (Silicone) ด้วยซ้ำไป เพราะการเสริมจมูกด้วยซิลิโคนหากมีปัญหา การอักเสบ การเบี้ยวเอียง หรือไม่ชอบทรงจมูกที่เสริมมา ก็สามารถผ่าตัดแก้ไขหรือเปลี่ยนซิลิโคนได้ แต่ถ้าเป็นการเสริมจมูกด้วยการฉีดฟิลเลอร์ อาจจำเป็นต้องต้องค่อยๆ ผ่าเลาะฟิลเลอร์ที่ค้างอยู่ออกมา แล้วพักเนื้อจมูก 3-6 เดือน ก่อนเสริมกลับเข้าไปใหม่ ซึ่งมันยุ่งยากกว่า
เทียบกันระหว่าง เสริมจมูกด้วยซิลิโคน กับ เสริมจมูกด้วยฟิลเลอร์ คือ
- การเสริมจมูกด้วยซิลิโคน ต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้น 5-7 วัน แต่การเสริมจมูกด้วยฟิลเลอร์ไม่ต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้น
- การเสริมจมูกด้วยซิลิโคนเมื่อเกิดปัญหาการอักเสบ ติดเชื้อ หรือต้องการเปลี่ยนทรง สามารถแก้ไขได้เลย แต่การเสริมจมูกด้วยฟิลเลอร์ต้องใช้วิธีขูดออก พักเนื้อ แล้วจึงะเสริมกลับเข้าไปใหม่ได้
- ฟิลเลอร์บางตัวก็ไม่สามารถสลายได้หมด ยังมีตกค้างอยู่ในเนื้อเยื่อรงบริเวณที่ฉีด
- เสริมจมูกด้วยฟิลเลอร์ไม่ใช่การเสริมจมูกแบบถาวร
- การเสริมจมูกฟิลเลอร์รูปทรงจมูกอาจมีการเปลี่ยนแปลงทีหลังได้
- การเสริมจมูกด้วยซิลิโคนสามารถปรับแต่งทรงจมูกได้มากกว่า
ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นการเสริมจมูกด้วยวิธีไหน จำเป็นจะต้องได้รับการดูแลและทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เนื่องจากแพทย์ที่มีประสบการณ์ จะสามารถวิคราะห์ถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นได้ เพราะการเสริมจมูกแต่ละวิธีจะเหมาะกับรูปหน้าที่ต่างกัน ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะแตกต่างกันออกไปด้วย ดังนั้นทางที่ดีที่สุดควรไปพบแพทย์ เพื่อขอคำแนะนำก่อนตัดสินใจ